ระบบสารสนเทศของธนาคาร

ธนาคารกรุงเทพ มุ่งพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศรองรับกลุ่มลูกค้า ‘Bualuang iBanking’ ธนาคารทางอินเทอร์เน็ต พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงิน ด้วยบริการใหม่ ส่งคำสั่งกองทุนเปิด เพิ่มบัญชีบุคคลอื่นได้ทันทีทางอินเทอร์เน็ต โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารอื่น ส่ง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้รับโอน ตรวจสอบรายการใช้จ่ายผ่านบัตรบีเฟิสต์ หรือสั่งพิมพ์หลักฐานการโอนเงินไปต่างประเทศ ทั้งหมดล้วนพัฒนาขึ้นเพื่อสนองตอบรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำธุรกรรมทางการเงินส่วนตัวที่ทันสมัย สะดวกสบาย ไม่ยุ่งยาก ตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วทุกมุมโลก และยังคงรักษามาตรฐานระบบความปลอดภัยสูงสุดที่ใช้ในวงการธนาคารระดับโลกในขณะนี้

                นางรัชนี นพเมือง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้อำนวยการลูกค้าบุคคลนครหลวง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางธนาคารได้มีการพัฒนาเพิ่มเติมรูปแบบการให้บริการผ่าน ‘Bualuang iBanking’ ธนาคารทางอินเทอร์เน็ต นอกเหนือจากที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน เพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำธุรกรรมทางการเงินส่วนตัวที่ทันสมัย สะดวกสบายได้ทั่วทุกมุมโลก ตลอด 24 ชั่วโมง โดยบริการที่เพิ่มเติมขึ้นประกอบด้วย บริการส่งคำสั่ง ซื้อ ขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน กองทุนเปิด บริการเพิ่มบัญชีบุคคลอื่นในรายการบัญชีผู้รับโอนเงินได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องไปติดต่อธนาคาร บริการทำรายการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารอื่น โดยผู้รับโอนจะได้รับเงินในทันที พร้อมบริการส่ง SMS แจ้งผลการโอนเงินไปยังหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้รับโอน บริการตรวจดูรายการใช้จ่ายผ่านบัตรบีเฟิสต์ในบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์หรือบัญชีเงินฝากกระแสรายวันที่เป็นบัญชีหลัก และบริการพิมพ์หลักฐานการโอนเงินไปต่างประเทศ (ใบเสร็จรับเงิน) ผ่าน ‘Bualuang iBanking’‘นับเป็นบริการที่เพิ่มเติมจากรูปแบบบริการปกติของ ‘Bualuang iBanking’ ที่สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย 1.ประเภทบริการหลัก ได้แก่ การตรวจดูความเคลื่อนไหวของบัญชีเงินฝาก บัญชีสินเชื่อและบัญชีบัตรเครดิต การชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แก่บริษัทและร้านค้ากว่า 300 แห่ง โดยสามารถเลือกชำระได้ทันที หรือในอนาคตตามวันและเดือนที่ลูกค้ากำหนด การโอนเงินระหว่างบัญชีของลูกค้าเอง หรือโอนไปยังบัญชีบุคคลอื่นของธนาคารกรุงเทพ 2.ประเภทบริการพิเศษ ได้แก่ การตรวจสอบสถานะของเช็คคืนทั้งประเภทเช็คสั่งจ่ายและเช็คนำฝาก การอายัดเช็ค การอายัดสมุดคู่ฝาก การขอใบแสดงรายการบัญชี ตรวจสอบยอดเงินในบัญชี ตรวจสอบรายการบัญชี และ 3.ประเภทบริการเสริม ได้แก่ การกำหนดรหัสประจำตัวใหม่ด้วยตนเอง การเปลี่ยนรหัสลับส่วนตัว การตั้งชื่อบัญชีตัวเอง การซ่อนเลขที่บัญชีบนหน้าจอ การกำหนดวงเงินสูงสุดสำหรับการโอนและชำระเงินฝ่าน ‘Bualuang iBanking’ และการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร อีกทั้งบริการติดต่อธนาคารผ่านบริการแบงก์เมล ซึ่งเป็นระบบอีเมล์ที่มีความปลอดภัยสูงที่ใช้สื่อสารระหว่างลูกค้ากับธนาคารเท่านั้น’

                นางรัชนี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริการ ‘Bualuang iBanking’ ของธนาคารกรุงเทพ ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับของลูกค้าธนาคาร ทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่มาใช้บริการจนมีปริมาณสมาชิกและปริมาณธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความหลากหลายของการให้บริการ ความรวดเร็ว สะดวกสบาย ปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว ถือเป็นจุดเด่นของบริการดังกล่าว สำหรับลูกค้าที่เปิดใช้บริการบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารกรุงเทพสามารถสมัครเป็นสมาชิก ‘Bualuang iBanking’ ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่ประการใดที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ โดยธนาคารจะดำเนินการจัดส่งรหัสประจำตัวลูกค้า (User ID) ผ่านทาง E-mail และรหัสลับแรกเข้า (PIN) ทางไปรษณีย์ ทั้งนี้เมื่อลูกค้าเริ่มใช้บริการเป็นครั้งแรก ระบบจะให้ลูกค้าเปลี่ยนรหัสลับแรกเข้า (PIN) ให้เป็นรหัสลับส่วนตัว (Password) ซึ่งลูกค้าสามารถเปลี่ยนได้บ่อยตามความต้องการ‘ด้วยหน้าที่หลักที่สำคัญประการหนึ่งของธนาคารคือ การพิทักษ์ความปลอดภัยและรักษาความลับให้กับลูกค้า ดังนั้นบริการทุกประเภทของทางธนาคารจึงใช้ระบบเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยล่าสุดและดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีการเข้ารหัสแบบ Secure Socket Layer (SSL) ที่ระดับ 128 บิท (128 - bit encryption) มาใช้ ซึ่งเป็นระดับความละเอียดสูงสุดในการเข้ารหัสที่ใช้ในวงการธนาคารระดับโลกขณะนี้ เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางธนาคารทางอินเทอร์เน็ต ด้วยระบบความปลอดภัยสูงสุด นับเป็นอีกหนึ่งบริการที่ธนาคารกรุงเทพได้พัฒนาขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกและสนองตอบความต้องการของลูกค้าบุคคลยุคใหม่ ในการเคียงข้างทุกย่างก้าวไปกับลูกค้าทุกกลุ่มของธนาคาร